1. ขนเทียม
ขนเทียมหมายถึงการใช้การทอ การถัก หรือการติดกาวเพื่อสร้างกองที่มีความยาวต่างกันบนพื้นผิวของผ้า ซึ่งมีลักษณะและความสามารถในการสวมใส่ได้ใกล้เคียงกับขนสัตว์ธรรมชาติ
ขนสัตว์เทียมแบบถักหมายถึงการใช้เนื้อเยื่อหรูหราบนเครื่องถักที่ทำจากขนสัตว์ ซึ่งทำจากเส้นใยอะคริลิก เส้นใยคลอรีน หรือเส้นใยวิสโคส และสร้างโครงสร้างชั้นคล้ายกับขนเข็มและปุยบนผิวผ้า ลักษณะที่ปรากฏคล้ายกับขนธรรมชาติ และมีฉนวนกันความร้อนที่ดี ระบายอากาศ และความยืดหยุ่น
ขนเทียมแบบทอเป็นโครงสร้างซ้อนสองชั้น ซึ่งก่อตัวเป็นขนบนผืนผ้าหลังการตัด ขนแกะขนเทียมชนิดนี้มีการรวมตัวแน่น ตุ๊กตาเรียบร้อย ความยืดหยุ่นที่ดี ความอบอุ่นและการระบายอากาศได้คล้ายกับขนธรรมชาติ
ขนหยิกที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็นวิธีการติดกาว ซึ่งทำจากผ้าพื้นแบบทอ แบบถัก หรือไม่ทอแบบต่างๆ ที่มีเส้นด้ายหยิกคล้ายหนังแกะ ทำให้เกิดขนตามธรรมชาติ พื้นผิวคล้ายกับลอนดอกไม้ธรรมชาติ ตุ๊กตานุ่ม ๆ เนื้อเบา เก็บความร้อนได้ดี และความชื้นซึมผ่าน ไม่เป็นสนิมง่าย ซักง่าย และแห้ง และใช้กันอย่างแพร่หลายในด้านต่าง ๆ
2. หนังเทียม
หนังเทียมส่วนใหญ่เคลือบบนผ้าฝ้าย ผ้าใยเคมี และผ้าฐานอื่นๆ เคลือบด้วยไวนิล ไนลอน ฯลฯ เพื่อให้พื้นผิวมีโครงสร้างคล้ายกับหนังธรรมชาติ เมื่อเทียบกับหนังธรรมชาติ หนังเทียมเคลือบไวนิลมีข้อดีหลายประการ เช่น มีความทนทานดี ยืดหยุ่นดี ยืดหยุ่นดี ไม่เสียรูปง่าย ซักง่าย ฯลฯ แต่ขาดการระบายอากาศและการดูดซึมน้ำ ซึ่งส่งผลต่อความสบายของ น่าเหนื่อยหน่าย. หนังเทียมที่ทำจากไนลอนเรซินนั้นดีกว่าหนังเทียมที่เคลือบไวนิล ซึ่งช่วยเพิ่มการระบายอากาศและการซึมผ่านของความชื้น
หนังสังเคราะห์โพลียูรีเทนเป็นหนังเทียมชนิดหนึ่งที่พัฒนาขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เหตุผลก็คือหนังสังเคราะห์นี้ใช้โพลียูรีเทนที่มีโครงสร้างพรุนขนาดเล็กเป็นชั้นพื้นผิว และผ้าไม่ทอที่ทำจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์เป็นผ้าพื้นฐาน ซึ่งมีความทนทานต่อน้ำและทนต่อการสึกหรอได้ดี และปรับปรุงการซึมผ่านของไอน้ำ มีผลการจำลองที่ดีและโครงสร้างเส้นใยคล้ายกับหนังสัตว์ นอกจากนี้ ซักง่าย เย็บง่าย ซ่อมง่าย และราคาถูก จึงเป็นสินค้าที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย