1. ผ้านุ่ม
ผ้าเนื้อนุ่มโดยทั่วไปจะมีน้ำหนักเบาและบางกว่า มีผ้าม่านที่ดี เส้นรูปทรงเรียบ และเสื้อผ้าที่ยืดออกอย่างเป็นธรรมชาติ ผ้าเนื้อนุ่มส่วนใหญ่ประกอบด้วยผ้าถักและผ้าไหมที่มีโครงสร้างผ้ากระจัดกระจายและผ้าลินินเนื้อนุ่ม ผ้าถักเนื้อนุ่มมักใช้รูปทรงเชิงเส้นและรัดกุมในการออกแบบเสื้อผ้าเพื่อสะท้อนถึงส่วนโค้งที่สง่างามของร่างกายมนุษย์ ไหม เส้นด้ายป่าน และผ้าอื่นๆ จะหลวมและมีรูปร่างเป็นจีบมากขึ้น แสดงถึงการไหลของเส้นผ้า
2. ผ้าเคลือบเงา
ผ้ามันเงามีพื้นผิวเรียบและสามารถสะท้อนแสงได้ทำให้รู้สึกเปล่งประกาย ผ้าประเภทนี้รวมถึงผ้าที่มีโครงสร้างเป็นซาติน มักใช้ในชุดราตรีหรือเครื่องแต่งกายบนเวทีเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ภาพที่สวยงามและตระการตา ผ้าเคลือบเงามีอิสระในการสร้างแบบจำลองที่หลากหลายในการแต่งกาย และสามารถมีการออกแบบที่เรียบง่ายหรือวิธีการสร้างแบบจำลองที่เกินจริงได้
3. ผ้าโปร่ง
ผ้าโปร่งใสมีน้ำหนักเบา บางและโปร่งใส พร้อมเอฟเฟกต์ศิลปะที่หรูหราและลึกลับ รวมทั้งผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าใยเคมี เป็นต้น เช่น จอร์จเจ็ต ผ้าไหมซาติน ลูกไม้ใยเคมี เป็นต้น เพื่อแสดงความโปร่งใสของผ้า เส้นที่ใช้กันทั่วไปจะมีลักษณะเป็นธรรมชาติและอวบอิ่ม โดยมีรูปตัว H และ การออกแบบรูปโต๊ะกลม
4. ผ้าสดชื่น
ผ้าที่คมชัดมีเส้นที่ชัดเจนและให้ความรู้สึกที่มีปริมาตร ซึ่งสามารถสร้างโครงร่างเสื้อผ้าที่อวบอ้วนได้ ที่ใช้กันทั่วไปคือผ้าฝ้าย ผ้าฝ้ายโพลีเอสเตอร์ ผ้าลูกฟูก ผ้าลินิน และผ้าขนสัตว์หนาปานกลางและเส้นใยเคมีต่างๆ ผ้าประเภทนี้สามารถใช้ในการออกแบบที่เน้นความแม่นยำของการสร้างแบบจำลองเสื้อผ้า เช่น การออกแบบชุดสูทและชุดสูท
5. ผ้าหนาและหนัก
ผ้าสำหรับงานหนักมีความหนาและแข็ง ซึ่งสามารถให้สไตล์ที่คงที่ รวมทั้งผ้าขนสัตว์ชนิดหนาและผ้าควิลท์ทุกชนิด เนื้อผ้าให้ความรู้สึกขยายได้จริง และไม่ควรจีบและซ้อนมากเกินไป รูปร่างรูปตัว A และรูปตัว H มีความเหมาะสมที่สุดในการออกแบบ
6. ผ้าทำงาน
ผ้าที่ใช้งานได้คือผ้าที่มีฟังก์ชันพิเศษ เช่น สารหน่วงไฟ ป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ ป้องกันกรดและด่าง เป็นต้น